ครีมหอยทากดีอย่างไร

ครีมหอยทากดีอย่างไร
ครีมหอยทาก หน้าเด็กเวอร์

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ครีมหน้าใสไร้ที่ติ ครีมหอยทาก

ตามคำเรียกร้อง หลังจากที่เราปล่อยสินค้าครีมหอยทากออกสู่ตลาดได้มีการบอกต่อกันอย่างรวดเร็วทำให้เพื่อนๆเรียกร้องขอส่วนลดกันมามาก เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของท่านผู้มีอุปการคุณ ทางร้านจึงจัดเซ็ต "หน้าขาวใสไร้ที่ติ"ครีมหอยทาก Snail Cream Series 7 ชิ้น จากราคาปกติ 5,310 ลดเพิ่มอีก เหลือเพียง 4,500 บาท (ค่าจัดส่งฟรีทั่วประเทศ)
1 ชุด ประกอบด้วย

1. Green Snail EGF Toner Skin Watchers 120 ml.
     โทนเนอร์หอยทาก
2. Green Snail EGF Emulsion Skin Watchers 120 ml.

     เซรั่มหอยทาก
3. Green Snail EGF Cream Skin Watchers 50 ml.

    ครีมหอยทาก
4. Aqua Most Whitening Water Drop Cream Skin Watchers 50ml. 

    ครีมน้ำกระจาย
5. Enzyme Powder Wash Skin Watchers 70g.

    ผงเอนไซด์ล้างหน้า
6. Papaya Moisture Exfoliating Gel Skin Watchers 100 ml.

     เจลขัดหน้าใสมะละกอ
7. Green Snail Wrinkle and Whitening Peptide Essence 30 ml 

    เอสเซนต์หอยทาก


และนี่คืออีก 1 บทพิสูจน์จากลูกค้าที่สัมผัสได้ว่าครีมหอยทากทำให้ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอย ร่องลึกเริ่มจางภายใน 1 เดือน

ภาพถ่าย...ยังไม่ได้ทดลองใช้สินค้า .....ก็ว่าหน้าเด็กแล้วนะ ไม่บอกอายุนะคะ เดาเอาเอง


และแล้ว


และแล้ว

เวลาผ่านไป 1 เดือน



จะเห็นได้ว่า ริ้วรอยบริเวณหน้าผากจางหายไป รูขุมขนเล็กลง หน้าใสขึ้น ปรับรูปหน้าให้ได้องศามากขึ้น และที่สำคัญหน้าไม่มันด้วย...อิอิ

นี่คือประสิทธิภาพของครีมหอยทากที่เห็นผลจริง จากประสบการณ์ตรงของผู้ใช้ ไม่มี make fake หรือ retouch ใดๆ ทั้งสิ้น อยากให้ท่านผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้าได้ทดลองใช้สินค้าที่ดีๆดูบ้าง สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bunnyhealthme.com
หรือสอบถามได้ที่ Call Center 089 623 0999 ยินดีทุกคำถามค่ะ




   Skin Watchers คือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการบำรุงผิวหน้าที่แท้จริงค่ะ


วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

เมื่อลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

The acquisition from the mother, Children's play and activity interests as they acquire from their mom. ขึ้นต้นมาให้ดูขลังนิดหนึ่ง ชอบมากนะคะกับข้อความนี้ the acquisition from my mother คือการได้รับอิทธิพลโดยไม่รู้ตัวจากแม่ ถ้าจะเปรียบเทียบกับสำนวนไทยก็คือ "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" การได้รับอิทธิพลอาจจะเป็นเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เด็กเห็นการกระทำของพ่อแม่เป็นประจำแล้วเกิดการเลียนแบบ ถ้าเป็นเรื่องที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีของพ่อแม่อันนี้เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต้องอบรม สั่งสอน และให้ความรู้กับเด็กอีกที พี่บันนี่จะนำเสนอแบบไม่ซีเรียสนะคะ แต่เชื่อเลยว่าโดนใจท่านผู้อ่านหลายคนแน่นอน ก็อยากให้ท่านผู้อ่านลองสังเกตุพฤติกรรมของตนดูว่า เราเหมือนต้นไม้ใหญ่ตรงไหน





"เห็นทุกวัน....เห็นเป็นประจำ...ไม่ต้องสอน....หนูทำได้"



งานอดิเรก "แม่ทำไร .......หนูก็ทำได้"








แต่อันนี้ แม่ขอยอมแพ้จร้า เชื้อแม่....ง..แรงส์จริงๆ

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงนะคะ มีบทความหลายบทความเอาความรู้นี้ไปทำการวิจัยอย่างมากมายอย่างเช่นการสอนภาษาต่่างประเทศให้กับเด็กเล็ก หรือการเลี้ยงเด็กด้วยสองภาษา,อิทธิพลของพี่เลี้ยงที่เกิดขึ้นกับเด็ก .....ฉะนั้นคงพอจะสนับสนุนคำพูดที่ว่า "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นได้บ้างนะคะ"

http://bunnyhealthme.com/default/news/review3/
สนใจดูความบันเทิงเพิ่มเติมได้ที่เวปลิ้งค์นี่นะคะ

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง(นะ)

Beauty by Bunny: ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง(นะ)
: คำพังเพยคำนี้ยังใช้งานได้ีดี ท่านเห็นด้วยหรือไม่ สีสันทำให้การรับรู้เปลี่ยนไป สีส่งอารมณ์ให้กับคนมอง โทนสีที่นิยมนำมาทำให้เกิดความแตกต่างคือ...คำพังเพยคำนี้ยังใช้งานได้ดี ท่านเห็นด้วยหรือไม่ สีสันทำให้การรับรู้เปลี่ยนไป สีส่งอารมณ์ให้กับคนมอง โทนสีที่นิยมนำมาทำให้เกิดความแตกต่างคือ โทนสีร้อน และโทนสีเย็น




โทนร้อน ให้ความรู้สึก กระปี่กระเป่า ตื่นเต้น เร้าอารมณ์
โทนเย็น ให้ความรู้สึก สบาย ผ่อนคลาย

ฉะนั้นในการผลิตหรือการนำเสนอใดๆก็แล้วแต่ผู้ผลิตต้องมีจุดยืนว่าจะสื่อผลิตภัณฑ์นั้นออกมาอย่างไร เพื่อให้ดูตื่นเต้นหรือผ่อนคลาย สำหรับการแต่งตัวหรือแต่งหน้าก็เช่นเดียวกันสีก็จะแบ่งเป็น 2 เฉด คือ ร้อน กับเย็น
วันนี้เราจะยกตัวอย่างและแสดงภาพบางส่วนมาประกอบ
(ขออนุญาตคุณแม่ กับน้องปุ๊กกี้นะคะ)
เราจะมองเห็นได้ชัดเจนว่า ความรู้สึกของสีแดง กับสีชมพูเป็นอย่างไร

ขออีกตัวอย่างนะคะ


ไม่ใช่นะคะ ตัวจริง อยู่นี่คะ


คนเดียวกันนะคะ อุตส่าห์ทำเบลอสุดแล้ว ...ตัวเองก็ยังรับไม่ได้เหมือนกัน..


แล้วคุณละคะ ยังจะกล้าไม่แต่งอีกหรือไม่ อิอิ ถ้าคุณมีภาพถ่ายสะเทือนขวัญแบบนี้ส่งมาแชร์ได้เลยนะคะ

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

What's Blog ?

What's Blog? บล็อคคืออะไร ? หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Blog คืออะไร? ทำไมคำๆนี้ถึง มาแรงจัง ไปไหนๆก็มีแต่ Blog สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่?บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก(weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblogหรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log(ปู่ม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง
"ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯและกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆโดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรีและเสียค่าใช้จ่าย" – Wikipedia
สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุดBlog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blogจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blogในรูปแบบหนึ่ง Blog ส่วนใหญมักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียวแต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่มโดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลายซึ่งส่วนใหญ่เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปีเพื่อให้เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blogบางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archivesอาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดู Blog มักจะมาคู่กับระบบ Commentที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา postได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของเรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อบล็อคเกอร์มากในการนำไปพัฒนาปรับปรุง Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงินขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ลองหยิบตัวอย่างของบล็อคมาให้ดูก่อนเผื่อจะเก็ตไอเดีย
ซึ่งมักจะติดตั้ง Toolให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนักโดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึกเนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนำข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือประสบการณ์มาถ่ายทอดโดยค่อนข้างเป็นกันเอง และอีกรูปแบบหนึ่่งที่สบายๆ
แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่าจะเป็น Google , Yahooเพราะ Blog สามารถทำตัวเป็น PR หรือ SEOให้กับบริษัทได้โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมากสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนักและลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย ปัจจุบันในเมืองไทยมีผู้ให้บริการ Blog อยู่หลายที่ เช่น Bloggang, exteen หรือ BlogKaหรือต่างประเทศเช่น Blogger, WordPress, MySpace โดยส่วนตัวของพี่บันนี่แล้วใช้บล็อคสำเร็จรูปของ google ไม่ต้องออกแบบอะไร จับวาง จับเป๊ะ ตาม lay-out ที่ให้มา อาจจะปรับธีมนิดหน่อย(ขนาดนี้สำหรับตัวเองก็ยังลำบากเลย..) ท่านผู้อ่านก็ลองติดตามพัฒนาการของบล็อคนี้ด้วยนะคะว่าจะเป็นเช่นไร มีทักษะเพิ่มหรือไม่..อิอิ..ด้วยความที่เป็นคนชอบคิด ชอบฝัน ชอบจินตนาการ เป็นทุนอยู่แล้ว พอมีบล็อคมายิ่งเข้าทาง มีที่ระบายความรู้ ความคิด มุมมอง ของคนๆหนึ่งที่ทำไมไม่เหมือนคนอื่น เอ๊ะไปกันใหญ่เดี๋ยวจะผิดหมวดหมู่ เอาไว้ในหมวดหมู่ "จิตวิทยา พาไป" ท่านผู้อ่านจะได้รู้จักคนอื่น(แต่ไม่รู้จักตัวเอง??) มากยิ่งขึ้น ....แล้วค่อยเจอกันนะีคะ...... แล้วท่านผู้อ่านละคะ มีบล็อคกันแล้วยัง หรือถ้าใครอยากจะเขียนหรือให้ความรู้อะไรเพิ่มเติม บล็อคนี้มีพื้นที่ว่างให้เสมอนะคะ Resource:http://www.basicstep.net/what-is-a-blog/ Retrieved on September 5,2011

วิธีการนวดหน้าที่ถูกวิธี

        วิธีการนวดหน้า (Face Massage)

แต่ก่อนความรู้และการรับรู้เรื่องการนวดหน้านั้นจะเกี่ยวข้องกับเป็นการทำให้หน้าสวยดูดี แต่ในยุคปัจจุบันการนวดหน้านั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่จำเป็นพอสมควรเพราะ ถือว่าเป็นการพักผ่อนของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เป็นการคลายเครียด และผลที่ต้องการตามมาคือ 
 กล้ามเนื้อเต่งตึง ผิวหน้ามีความยืดหยุ่น  เสริมสร้างความงามให้กับใบหน้า                                                    
 
  ขั้นตอนแรกควรล้างหน้าและมือให้สะอาด เก็บผมให้มิดชิด ใช้ครีมนวดหน้าแต้มบนใบหน้า 5 จุด คือ หน้าผาก แ้ก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง คราวนี้ก็เริ่มลงมือกันได้เลยค่ะ  
source: http://sweetpots.wordpress.com
                                          
1.การ
นวดหน้าผาก โดยนวดชิกแซ็กบริเวณกึ่งกลางหน้าผากไปหาขมับ

2.การนวดแนวต่อคิ้ว โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวางระหว่างแนวต่อคิ้ว แล้วใช้นิ้วกลางนวดซิกแว็กขึ้นไปบนหน้าผาก และนิ้วที่วางต้องขยับตามไปด้วย

3.การนวดเปลือกตา ให้นวดโดยใช้นิ้วลูบเบาๆ ที่หัวตามาวนใต้ตาเป็นวงกลม

4.การนวดนางตา ให้นวดซิกแซ็ก บริเวณหางตาไปขมับ

5.การนวดแก้ม ให้นวดเบาๆ โดยลูบมือจากหัวตาผ่านข้างจมูกลงมาซิกแซ็กข้างแก้ม

6.การนวดใต้ตา ให้นวดเบาๆ โดยลูบจากใต้ตา  ผ่านข้างแก้ม ซิกแซ็กบริเวณแก้ม

7.การนวดมุมปาก ให้นวดเบาๆ โดยลูบมือจากข้างจมูกผ่านมุมปากมาคาง

8.การนวดจุดประสาท มีการนวดอยู่หลายจุด ดังนี้
  8.1นวดโดยลูบจากกึ่งกลางหน้าผากมาขมับและกดเบาๆ
  8.2นวดโดยลูบจากเปลือกตามาขมับและกดเบาๆ
  8.3นวดโดยลูบจากใต้ตา มาขมับและกดเบาๆ
  8.4นวดโดยลูบจากมุมปากมาขมับและกดเบาๆ
  8.5นวดโดยลูบจากคาง มาขมับและกดเบาๆ

9.การนวดทั่วใบหน้า ให้นวดโดยใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลางและนิ้วนางหยิบบนใบหน้าให้ทั่ว

10.การนวดใต้คางและลำคอ ให้นวดโดยลูบจากใต้คางลงมาที่ลำคอ และจากลำคอขึ้นไปใต้คาง

ข้อแนะนำ

การนวดหน้าจะทำกันประมาณ 3-5 นาทีเมื่อนวดเสร็จแล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบีบพอหมาดๆ มาเช็ดให้ทั่วใบหน้า และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความสดชื่น  ท่านสามารถนวดได้ทุกวันเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า และผ่อนคลายอารมณ์ที่ยุ่งเยิงจากการทำงานมาทั้งวัน

                                                                    

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเมคอัพ


(Accessories for Makeup)
ฟองน้ำ (Sponge)

ฟองน้ำที่ใช้ในการแต่งหน้ามีอยู่ 2 แบบ คือแบบที่ใช้เกลี่ยครีมรองพื้นและแบบที่ใช้ทาแป้งแข็ง
ฟองน้ำที่ใช้ทาแป้งแข็งนั้น ควรจะมีขนาดใหญ่กว่า และมีเนื้อที่ละเอียดกว่า
ฟองน้ำสำหรับเกลี่ยครีมรองพื้น อาจจะมีเนื้อหยาบกว่าได้นิดหน่อย ซึ่งควรเลือกใช้แบบเป็นชิ้นแบนๆ เล็กๆ เมื่อเปื้อนครีมรองพื้นทั่วทั้งชิ้นแล้วก็ทิ้งไปสำหรับกรณีที่เลือกใช้ฟองน้ำแบบชิ้นใหญ่ ควรทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง โดยการซักด้วยน้ำสบู่ ที่ซักออกง่ายที่สุดเห็นเหมือนจะเป็นสบู่นกแก้วของไทยนี่หละออกหมดจรด ล้างจนหมดฟอง บีบให้แห้งแล้วผึ่งลมไว้อย่าให้ถูกแสงแดด

พัฟ (Puff)

มีไว้สำหรับการทาแป้งฝุ่น พัฟที่ดีควรจะมีความอ่อนนุ่ม และมีขนยาวพอสมควรเพื่อการดูดซับแป้งฝุ่นได้ดี ส่วนที่ติดมาในกล่องของแป้งฝุ่นนั้นจะมีขนาดเล็ก ไม่เหมาะกับการใช้งาน ควรจะซื้อแยกต่างหาก เพื่อให้มีความหนาและใหญ่ถนัดมือมากยิ่งขึ้น การทำความสะอาดก็เช่นเดียวกัน ควรซักด้วยน้ำสบู่ ล้างจนหมดฟอง บีบน้ำออกแล้วใช้ผ้าสะอาดกดทับให้แห้ง จากนั้นผึ่งลมไว้อย่าให้ถูกแสงแดด


แปรงรองพื้น (Foundation Brush)
ขนแปรงจะค่อนข้างแข็งกว่าชนิดอื่น เนื่องจากต้องใช้กับรองพื้นที่มีลักษณะเป็นน้ำ การใช้แปรงเกลี่ยรองพื้นนี้จะทำให้รองพื้นไม่จับตัวกันเป็นก้อน และดูเนียนเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น



แปรงปัดคิ้ว (Brow Brush)

ก่อนที่จะปัดคิ้วเราควรใช้แปรงที่มีลักษณะคล้ายหางกระรอกแปรงย้อนขนคิ้วเพื่อเป็นการทำความสะอาดเศษแป้งหรือรองพื้นที่ติดบนคิ้ว นอกจากนั้นแล้วทำให้เรารู้ตำแหน่งที่ชัดเจนของคิ้วว่าเราควรจะวาดไปในทิศทางใด ใช้ในการปัดคิ้วให้ได้รูป และการลงสีอายแชโดว์บนคิ้ว พู่กันปัดคิ้วควรมีขนาดเล็กพอดีกับคิ้ว ขนพู่กันมีความแข็งนิดหน่อย ปลายพู่กันตัดเฉียงเล็กน้อย เพื่อความสะดวกในการวาดตามรูปคิ้ว นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยในการปรับแต่งคิ้วอีก เช่น มีดโกน และแหนบ
แปรงทาตา (Eye Shadow Brush)

ควรมีไว้ใช้งาน 3 ขนาด คือ ขนาดใหญ่ สำหรับอายแชโดว์สีอ่อน ที่ต้องทาเป็นบริเวณกว้างเต็มพื้นที่เปลือกตา ขนาดกลาง สำหรับอายแชโดว์สีเข้มขึ้นซึ่งจะทาเป็นรัศมีวงแคบลงมา และขนาดเล็ก สำหรับอายแชโดว์สีเข้ม ซึ่งใช้ทาในพื้นที่เล็กเพื่อความเข้มคมชัดเจน แต่ในปัจจุบันแปรงมีให้เลือกหลากหลายเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น “แปรงใหญ่ทาพื้นที่ใหญ่ แปรงเล็กทาพื้นที่เล็ก”
แปรงปัดแก้ม (Blush Brush/Cheek Brush)

ใช้ในการปัดทั้งบลัชออน และแป้งฝุ่น แป้งแข็ง บนใบหน้า ขนพู่กันควรมีขนาดใหญ่ประมาณ 1.5-2 นิ้ว และมีลักษณะแบบ นุ่มนวล ปลายขนมีความฟูกระจายพอเหมาะ
แปรงที่มีขนแปรงเฉียง เหมาะกับการแรเงาเป็นเฉดดิ้งใต้โหนกแก้ม รอบๆใบหน้า ตัดกร้าม แบบปัดทางเดียว ไม่ต้องย้อนขึ้นลง ง่ายต่อการใช้งานมาก
แปรงคาบูกิ Kabuki เป็นแปรงลูกเล่นที่น่าใช้พอสมควร เนื่องด้วยรูปร่างก็น่ารัก พกพาสะดวก การใช้งานก็ง่ายใช้ปัดได้ทั้ง บรัชออน ไฮไลท์ และเอาไว้เติมแป้ง แต่ราคาของหล่อนก็ไม่เบาทีเดียว
แปรงปัดแก้มที่ดีควรปัดแล้วเกิดความนวลเนียนและสีสันจางกลมกลืน
พู่กันทาปาก (Lip Brush)

ใช้ในการทาลิปสติกบนริมฝีปาก ซึ่งจะทำให้สีสันเรียบเนียนและเรียบร้อยคมชัดดีกว่าการทาลิปสติกลงบนริมฝีปากโดยตรง นอกจากนี้แล้วยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของลิปสติคแท่งโปรดอีกด้วย ขนพู่กันทาปากควรจะแบนและแน่น ขนพู่กันต้องไม่นิ่มจนเกินไป เพื่อให้บังคับน้ำหนักในการทาสีได้ดี

ที่ดัดขนตา (Eyelash Curlers)
การดัดขนตาให้งอนงาม เป็นการเปิดดวงตาให้ดูโตขึ้นและสว่างสดใสขึ้น ฉะนั้นจึงควรดัดขนตาทุกครั้งที่ทำการแต่งหน้า ที่ดัดขนตาที่ดีนั้น ส่วนที่ใช้หนีบขนตาควรเป็นวัสดุยางสีดำ ไม่แข็งเกินไปเพราะอาจทำให้ขนตาหักหรือขาด และไม่นิ่มเกิดไปเพราะดัดแล้วขนตาจะไม่งอน อีกอย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ ขนตาปลอม ขนตาปลอมคือสิ่งสุดท้ายในการแต่งหน้า จะทำให้การแต่งหน้าสมบรูณ์แบบที่สุด เราทำให้เราสวยขึ้นกว่าเดิมอีก 50 เปอร์เซ็นต์เลยที่เดียว การติดเดี๋ยวนี้ก็ง่ายแสนง่าย แต่ต้องใช้แหนบช่วย และกาวก็ต้องติดทนด้วย
กว่าจะสวยทำไม มันยุ่งยากขนาดนี้....ต้องลงทุนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ....ตอบ..ใช่ ยุ่งยาก เยอะ แต่คุ้ม..เพราะอุปกรณ์พวกนี้ ถ้าเป็นของดี ทนแสนทน ใช้ได้นานม๊าก มาก ขอเน้น ที่เอามาให้ดูนี่คือส่วนหนึ่งของ ของใช้ส่วนตัวของพี่บันนี่นะ ค่อยๆซื้อ ค่อยสะสม พูดถึงสนนราคาแล้วมันมากไม่เท่ากับของฟุ่มเฟื่อยอย่างอื่นนะ แถมอยู่กับเราไปอย่างนั้นตลอด ถ้าไม่ทำหายเสียก่อน ไม่อยากจะบอกเลย ว่าแปรงของ Mac เกือบจะ 5 ปีแล้วนะ ยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย คุ้มจริงๆ แต่ปัจจุบันนี้ก็มีแปรงเกรดดีๆ มีมากมาย ท่านผู้อ่านก็ลองเลือกดู ที่คุณภาพดีราคาไม่แพงมาก เหมาะสมกับเรา แบบไม่ต้องอดข้าวเพื่อแปรง สมัยนี้ของดี ราคาถูก ก็เยอะไปค่ะ
http://www.bunnyhealtme.com

กด Like เพื่อทำความรู้จักกันหน่อยนะคะ